เร่งควบคุม พ.ร.บ. ยางพารา เพื่อเกษตรกรและวางแผนส่งออกอย่างเป็นระบบ
- Sunset Magazine Thai
- 27 เม.ย.
- ยาว 1 นาที
By Vichita Virochpoka

สถานการณ์ราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน 2568 กำลังสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ ข้อมูลจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระบุว่า ราคายางหน้าโรงงานร่วงลงจาก 68.50 บาทต่อกิโลกรัม เหลือเพียง 55.75 บาทในเวลาไม่ถึงสามสัปดาห์ สาเหตุหลักมาจากการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ความต้องการยางในตลาดโลกลดลง ประกอบกับการกดราคารับซื้อของผู้ประกอบการบางราย ยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวสวนยางอย่างน่าเป็นห่วง
ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งดำเนินมาตรการควบคุมราคาตามพระราชบัญญัติควบคุมยางพารา พ.ศ. 2542 เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรโดยเร็วที่สุด นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาง ซึ่งไม่ได้ประชุมอย่างเป็นทางการมากว่า 7 ปี ถือเป็นก้าวแรกที่น่ายินดี แต่ยังต้องเดินหน้าอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
มาตรการเบื้องต้น เช่น การประกาศเขตควบคุมยางในพื้นที่สำคัญ 5 จังหวัด เพื่อป้องกันการลักลอบค้าขายยางเถื่อน และการกำหนดมาตรฐานยางใหม่เพื่อเอื้อต่อการส่งออก เป็นแนวทางที่ดี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเร่งผลักดันให้เกิดการบังคับใช้จริง และขยายมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคาให้ได้ในวงกว้าง
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยะกุล รักษาการผู้ว่าการ กยท. ได้ชี้ว่า การออกแบบฟอร์มใหม่เพื่อให้ผู้ส่งออกรายงานราคาซื้อขายล่วงหน้า 3 เดือน จะช่วยสร้างความโปร่งใสในตลาด และเสริมอำนาจต่อรองให้กับเกษตรกร นับเป็นแนวคิดที่ควรเร่งนำมาใช้จริงในทุกพื้นที่
พร้อมกันนี้ ภาคเอกชน เช่น นายอดิศักดิ์ กองวารี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก็ได้สะท้อนเสียงว่า อุตสาหกรรมยางพาราไทยมีสัดส่วนพึ่งพาการส่งออกสูงถึง 80% ดังนั้น การแก้ปัญหาต้องไม่หยุดแค่ควบคุมราคาในประเทศ แต่ต้องรีบวางแผนส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ สร้างแบรนด์สินค้าไทย และเปิดตลาดใหม่ ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างดีมานด์ที่มั่นคงในระยะยาว
นอกจากนี้หลังจากได้สัมภาษณ์เจ้าของสวนยางในจังหวัดสตูลแล้วนั้นพบว่าปัญหาราคายางพาราตกนั้นมีมาอย่างต่อเนื่องหลายปี สร้างความลำบากให้แก่เจ้าของสวนยางอย่างมากและต้องลดจำนวนพนักงานลง ทำให้กระทบถึงรายได้ของเจ้าของสวนเองและลูกจ้างที่ขาดรายได้
รัฐบาลไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป การเร่งควบคุมราคายาง และการวางแผนส่งออกอย่างเป็นระบบ ถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องทำควบคู่กัน ทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดจากภาคเอกชน ตัวแทนเกษตรกร และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างกลไกตลาดที่โปร่งใส เป็นธรรม และยั่งยืน
เพราะความอยู่รอดของพี่น้องชาวสวนยาง คือเส้นเลือดสำคัญของเศรษฐกิจไทยในหลายจังหวัด รัฐบาลจึงต้องลงมือด้วยความมุ่งมั่น เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ก่อนที่ความเสียหายจะขยายวงกว้างเกินเยียวยา
รัฐบาลจำเป็นต้องตื่นตัวและดำเนินมาตรการควบคุมราคายางพาราอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องรายได้ของเกษตรกรและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมยางของไทย และต้องวางแผนระยะยาว ทั้งการแปรรูปผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ของคนไทยเอง และการขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อให้ชาวสวนยางไทยมีอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง
Comments