Coachella แรงกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นที่คาดไม่ถึง

By Vichita Virochpoka

Photo : IG @coachella

เมื่อพูดถึงฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในเทศกาลที่ทุกคนจับตามองมากที่สุดก็คือ Coachella Valley Music and Arts Festival หรือที่หลายคนเรียกกันสั้นๆ ว่า Coachella งานเทศกาลดนตรีกลางทะเลทรายที่รวมตัวเหล่าศิลปินระดับโลกและผู้ชมจากทั่วโลกเอาไว้ในที่เดียว ไม่เพียงแต่เป็นงานดนตรีที่เต็มไปด้วยพลังและแฟชั่นไอคอนิคเท่านั้น แต่ Coachella ยังกลายเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

Coachella สามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดได้มากกว่า 13,000 ล้านบาท (ราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งจากการท่องเที่ยว การเข้าพักโรงแรม ร้านอาหาร การคมนาคม และอุตสาหกรรมบริการโดยรอบ เทศกาลนี้ไม่ได้แค่ดึงดูดแฟนเพลง แต่ยังรวมถึงเหล่า อินฟลูเอนเซอร์ เซเลบ และนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต่างเดินทางมาร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ด้วยตัวเอง

Photo : IG @lalalalisa_m

ในประเทศไทยเองชื่อเสียงของ Coachella ก็ยังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากเช่นกัน เมื่อสองสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังระดับโลกอย่าง ลิซ่า BLACKPINK และเจนนี่ BLACKPINK ได้ขึ้นแสดงบนเวทีในฐานะศิลปินเอเชีย รวมถึงการแสดงที่โดดเด่นจนทำให้กลายเป็นกระแสไวรัลมีผู้คนรับชมบนโซเชียลมากกว่า 40 ล้านคนไปแล้ว และตอกย้ำความเป็นเทศกาลระดับสากลที่เปิดกว้างสำหรับความหลากหลายทางดนตรีและวัฒนธรรม

หากย้อนมองกลับมาที่ประเทศไทย เราเองก็มีโมเดลที่คล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลในช่วงสงกรานต์ ซึ่งกลายเป็นเทศกาลระดับนานาชาติที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก หรือ Big Mountain Music Festival ที่รวบรวมแฟนเพลงนับแสน และสร้างการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ท้องถิ่นในการจัดงาน ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจชุมชน

สิ่งที่น่าสนใจคือ โมเดลงานเทศกาลแบบ Coachella สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับประเทศไทยในการพัฒนา Creative Economy โดยการนำเสนอความเป็นไทยในรูปแบบที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ สร้างอัตลักษณ์ที่แข็งแรง ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืนได้

ในอนาคต หากไทยสามารถวางแผนจัดงานที่ผสมผสานวัฒนธรรม ดนตรี และไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยได้คล้ายคลึงกัน ก็อาจเห็นงานเทศกาลแบบ “Coachella แบบไทยๆ” ที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของคนทั่วโลกก็เป็นได้