top of page

ชายชาวจีนถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้หญิงข้ามเพศอย่างโหดร้าย

By Vichita Virochpoka

Graphic by Vichita Virochpoka
Graphic by Vichita Virochpoka

ในเวลาเช้ามืดวันที่ 26 เม.ย. 2568 เกิดคดีฆาตกรรมสุดสะเทือนใจในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยหญิงข้ามเพศวัย 25 ปี ถูกพบเป็นศพในอพาร์ตเมนต์ย่านพัทยากลาง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง สภาพศพถูกกรีดกลางหน้าอก มีการนำอวัยวะภายใน เช่น ซิลิโคนหน้าอกและหัวใจออกมาวางไว้ข้างลำตัว ส่วนปอดข้างขวาหายไป ทำให้คดีนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ และได้รับความสนใจจากทั้งสื่อไทยและต่างประเทศ

ตำรวจจาก สภ.เมืองพัทยาได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที โดยอาศัยข้อมูลจากกล้องวงจรปิดภายในอพาร์ตเมนต์ พบภาพชายต้องสงสัยที่ต่อมาระบุตัวได้ว่าเป็น นายถงหยวน ฟู่ (Tongyuan Fu) อายุ 42 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเช่าห้องพักในวันที่ 25 เม.ย. เวลา 22.00 น. เขาเดินลงมารับหญิงสาวขึ้นห้อง และในช่วงเช้าของวันที่ 26 เม.ย. กลับเดินออกจากห้องหลายครั้ง พร้อมถือถุงพลาสติกต้องสงสัย

แม่บ้านให้ข้อมูลว่า เวลาประมาณ 02.00 น. ได้ยินเสียงทะเลาะและเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากในห้องของนายถงหยวน จากนั้นเสียงเงียบไปอย่างผิดปกติ พอเช้าเข้าไปตรวจสอบจึงพบศพหญิงข้ามเพศอยู่ภายในห้องพัก

วันที่ 26 เม.ย. ตำรวจควบคุมตัว นายถงหยวน ฟู่ ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศจีน โดยมีปลายทางที่เมืองคุนหมิง ตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” พร้อมควบคุมตัวกลับพัทยาเพื่อสอบสวนต่อ ท่ามกลางความตึงเครียด นายถงหยวนมีแผลข่วนทั่วใบหน้า ลักษณะคล้ายเกิดการต่อสู้กับผู้ตาย

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า นัดผู้ตายผ่านแอปพลิเคชัน WeChat เพื่อติดต่อซื้อบริการทางเพศ โดยไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นหญิงข้ามเพศ เมื่อตรวจพบภายหลังจึงเกิดการโต้เถียงและทะเลาะอย่างรุนแรง นำไปสู่การลงมือทำร้ายและฆ่า จากนั้นเขากรีดร่างของผู้ตายและนำอวัยวะภายในออกมาวางข้างศพ โดยอ้างว่าทำไป “เพราะตกใจและอยากเล่นกับศพ”

อย่างไรก็ตาม นายถงหยวนปฏิเสธว่าไม่ได้นำปอดของผู้ตายติดตัวไป พร้อมยืนยันว่าถุงที่ถือออกจากห้องเป็นเพียงถุงน้ำดื่ม ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบห้องพักอย่างละเอียด พบร่องรอยการต่อสู้และคราบเลือดจำนวนมาก เบื้องต้นระบุว่าผู้ต้องหา “จำนนต่อหลักฐานอย่างสิ้นเชิง” ทั้งภาพวงจรปิด เสียงจากพยาน และพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งสอดคล้องกับคำรับสารภาพ

เหตุการณ์นี้ได้จุดกระแสสังคมในหลายมิติ ไม่เพียงแค่ด้านความปลอดภัยของผู้ประกอบอาชีพกลางคืนหรือกลุ่มเพศหลากหลาย (LGBTQ+) เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการขาดมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่อาจมีพฤติกรรมรุนแรงหรือผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้เพิ่มระบบแจ้งเตือนและเฝ้าระวังภายในที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยว

พัทยาในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ กำลังเผชิญแรงกดดันจากคดีอาชญากรรมที่เกิดซ้ำซ้อนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งจากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ เหตุการณ์นี้อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่นักท่องเที่ยวพิจารณา ขณะที่ประเทศไทยกำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

 
 
 

Comments


bottom of page